คุณรู้หรือไม่ว่า Content เป็นอีกหนึ่งกุญแจที่สามารถเปิดประตูไปสู่ความสำเร็จทางออนไลน์ได้! แต่...ไม่ใช่เนื้อหาทั้งหมดที่จะมีประสิทธิภาพได้ เพื่อเป็นการไม่ลงลึก เราไปดูเคล็ดลับในการเขียนเนื้อหาเว็บไซต์ (Website content) ในปี 2567 กันเลยดีกว่าครับ
สำหรับเนื้อหาเว็บไซต์ (Website content) เรียกได้ว่าแทบจะทุกอย่างที่ปรากฏบนเว็บไซต์ ที่ให้ข้อมูลบางประเภท ที่อาจเป็นข้อความ (เช่น โพสต์ในบล็อกที่เรากำลังอ่านอยู่) รูปภาพ การบันทึกเสียง วิดีโอ หรืออินโฟกราฟิก
ซึ่งเนื้อหาเปรียบเสมือน ผู้ต้อนรับผู้เยี่ยมชม ให้ความบันเทิงแก่พวกเขา และโน้มน้าวให้พวกเขาต้องการที่จะอยู่ต่อ ฉะนั้นเมื่อทำถูกต้อง เนื้อหาจะทำให้ผู้คนอยู่บนไซต์ของเรานานขึ้น และช่วยเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นลูกค้าได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ยิ่งเราสร้างกลยุทธ์เนื้อหาได้ดีและน่าเชื่อถือเท่าไหร่ โอกาสที่จะนำพาผู้ชมไปสู่การตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ หรือเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
คำเตือน! “โปรดจงจำไว้นะครับว่า เนื้อหาสามารถสร้างภาพลักษณ์, บ่งบอกถึงทัศนคติ, สร้างความน่าเชื่อถือ, กระตุ้นการซื้อ, บ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพ, การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย, ประสิทธิภาพ SEO และประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับไอเดียความคิดสร้างสรรค์ของเราด้วย ในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งนะครับ”
ต่อไปนี้คือวิธีเขียนเนื้อหาเว็บไซต์บางประการ ในการสร้างเนื้อหาเว็บไซต์ยอดนิยม!
เริ่มจากกำหนดวัตถุประสงค์ของเรา
สิ่งแรกคือ เราต้องทำความเข้าใจว่า "ทำไมเราถึงเขียน สิ่งที่เราเขียน" ซึ่งการรู้เป้าหมายสุดท้ายตั้งแต่เริ่มแรก จะช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาที่ยอดเยี่ยมได้ (เพราะทุกชิ้นงานที่เราสร้างขึ้น จะมีจุดประสงค์ของมัน)
ตัวอย่างคำถามบางข้อ ที่เราจำเป็นต้องถามตัวเอง เมื่อต้องการกำหนดวัตถุประสงค์ของเนื้อหา
-
เราให้ความบันเทิง หรือชักชวนผู้ใช้หรือไม่
-
เราต้องการกำหนดเส้นทางให้ผู้อ่านดำเนินการอย่างไร
-
เรามีเป้าหมายที่จะสร้างแบรนด์ของเรา ให้เป็นผู้มีอำนาจในสาขาของเราหรือไม่
-
หรืออื่นๆ อีกมากมายที่เรามีเป้าหมายที่ต้องการ โดยใช้เนื้อหาเป็นกลยุทธ์
ดังนั้นเมื่อเราตอบคำถามเหล่านี้ได้ เราจะสามารถสร้างแผนงานที่ชัดเจนสำหรับเนื้อหาของเราได้ อย่างไรก็ตามอย่าลืมตรวจสอบให้ชัดเจนว่า เนื้อหานั้นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่กว้างขึ้นของเรา!
ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของเรา
เมื่อเรากำหนดวัตถุประสงค์แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือ เราจะต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของเรา เนื่องจากการรู้จักผู้ชมของเรา สามารถช่วยให้เรากำหนดวิธีที่ดีที่สุดในการสื่อสารกับพวกเขา และสามารถชักชวนให้พวกเขาตัดสินใจซื้อได้มากยิ่งขึ้นนั่นเองละครับ
ค้นคว้า วิเคราะห์เนื้อหาคู่แข่งของเรา
หากเป็นไปได้ ให้ค้นคว้าว่าเว็บไซต์คู่แข่งเผยแพร่เนื้อหาประเภทใด เช่น พวกเขากำลังสร้างโพสต์ listicle หรือไม่, คำแนะนำอย่างไร, ทิศทางของเนื้อหา, กลยุทธ์ที่พวกเขาใช้, เนื้อหาความเป็นผู้นำทางความคิดหรือไม่ และอื่นๆ ที่เราสามารถวิเคราะห์ออกมาได้
ดังนั้นการที่เราค้นหาว่าพวกเขาใช้รูปแบบใด หัวข้อใดที่พวกเขาครอบคลุม และความถี่ที่พวกเขาเผยแพร่ จะสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดของเรา และช่วยให้เรากำหนดกลยุทธ์เนื้อหาของเรา ได้มีประสิทธิภาพกว่าคู่แข่งในทุกด้านได้
ดึงดูดผู้อ่านของเราตั้งแต่บรรทัดแรกให้ได้!
เช่นเดียวกับหนังสือดีๆ ที่ดึงดูดเราตั้งแต่ประโยคแรก หรือหน้าปกหนังสือ ฉะนั้นเนื้อหาเว็บของเราจะต้องดึงดูดความสนใจของผู้อ่านทันที โดยใช้ภาพปกที่สร้างความเข้าใจในเนื้อหาทั้งหมดได้ ใช้พาดหัวที่น่าสนใจ แต่ไม่รุนแรงหรือดราม่าเกินไป เพราะครั้งต่อไปคุณจะไม่ได้รับความน่าเชื่อถืออีก สุดท้ายจะไม่ยั่งยืน ดังนั้นควรใช้คำกระตุ้นที่เหมาะสม และอธิบายในคำอธิบายเริ่มต้นให้เข้าใจได้มากที่สุด ก่อนจะพาผู้อ่านไปสู่เนื้อหาเพิ่มเติม
ทำให้สำเนาของเราสามารถสแกนได้
วิธีที่เรานำเสนอเนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งผู้อ่านทางออนไลน์แตกต่างจากการอ่านด้วยข้อความจริง! เนื่องจากการศึกษาพบว่า คนส่วนใหญ่มักจะอ่านผ่านๆ มากกว่าอ่านจริง ดังนั้น เราควรใส่หัวข้อย่อยประโยคสั้น และย่อหน้า หรือช่องว่างระหว่างย่อหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าข้อความของเรา สามารถสแกน (จับใจความ) ได้ง่ายและเข้าใจในทันที จากนั้นบรรทัดต่อไปค่อยอธิบายเนื้อหาโดยละเอียด
ช่วยผู้อ่านนำทาง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การช่วยให้ผู้อ่านสำรวจเว็บไซต์ของเราได้อย่างง่ายดายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ฝังลิงก์ไว้ในเนื้อหาของเรา ซึ่งชี้ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์ของเรา
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (การปรับปรุงเว็บไซต์ของเราที่ช่วยให้เรามองเห็นได้ในผลการค้นหา) และเป็นวิธีที่ดีในการแนะนำผู้อ่านไปยังเนื้อหาของเราที่เกี่ยวข้อง กับความสนใจของพวกเขามากขึ้นนั่นเอง
ใช้ภาษาที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย
ทำให้เนื้อหาเว็บไซต์ของเรานั้นเรียบง่าย ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านไม่สับสน ไม่หงุดหงิด และเข้าใจจุดประสงค์ของเนื้อหาเร็วขึ้น ฉะนั้น หากเราใช้ภาษาที่เรียบง่าย ผู้อ่านจะเข้าใจสิ่งที่เราพูดได้ดีขึ้น และนั่นรวมถึงเนื้อหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเรา และคุณประโยชน์ของพวกเขาที่จะได้รับจากเนื้อหาของเรา โดยเราสามารถทำได้ดังนี้
-
การยกตัวอย่าง
-
ใช้ประโยคสั้นๆ
-
หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์แสง
-
จำกัดการใช้คำวิเศษณ์และคำคุณศัพท์
พิสูจน์อักษรเพื่อตรวจจับข้อผิดพลาด
สำหรับเนื้อหาของเว็บไซต์ไม่ควรมีการพิมพ์ผิดหรือข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ เพราะความผิดพลาดที่เลอะเทอะอาจทำให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าผิดหวัง คิดว่าเป็นสแปม ดูไม่เป็นมืออาชีพ ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่ใส่ใจ สร้างความหงุดหงิดและความสับสนได้ และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการค้นหาได้ เนื่องจากเนื้อหาไม่สมบูรณ์
กระตุ้นให้ผู้อ่านลงมือทำ
เนื้อหาเว็บไซต์ของเราควรสนับสนุนการดำเนินการบางอย่าง บางทีเราอาจต้องการให้ผู้เยี่ยมชมซื้อสินค้า สมัครรับข้อมูลบล็อกของเรา หรือเข้าร่วมรายชื่ออีเมลของเรา ฉะนั้นด้วยการรวม CTA ที่ชัดเจนโดยใช้คำเช่น "เข้าร่วม" "ลงทะเบียน" "รับสาย" "กดจองคิวสร้างเว็บไซต์" หรือ "สมัครรับข้อมูล" เราสามารถช่วยในการเริ่มต้นการดำเนินการดังกล่าวได้
แสดงให้เห็นถึงข้อพิสูจน์ทางสังคม
การรวมหลักฐานทางสังคมบางส่วน สามารถสำรองข้อความที่เราได้ทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราได้ โดยส่วนใหญ่ใช้กับสำเนาที่เราเขียนสำหรับหน้าแรกและหน้า Landing Page ของเรา และเราสามารถทำได้โดยแสดงคำรับรองจากลูกค้า บทวิจารณ์ และหลักฐานอื่นๆ ทางสังคมที่เป็นจริง
เพิ่มภาพ
ผู้คนจำสิ่งที่พวกเขาเห็นได้มากกว่าสิ่งที่พวกเขาอ่าน ตามการวิจัยหลายทศวรรษ การเพิ่มเนื้อหาภาพ (อินโฟกราฟิก กราฟ วิดีโอ ฯลฯ) จะช่วยให้ผู้คนเข้าใจ จดจำ และมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของเราได้ดีขึ้น
ปรับให้เหมาะสมสำหรับ SEO
ถึงแม้ว่าการมุ่งเน้นที่ผู้อ่านของเราเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของเรา สำหรับเครื่องมือค้นหาก็สำคัญไม่แพ้กัน
โดยสิ่งนี้ช่วยให้แน่ใจว่า เนื้อหาของเราจะถูกค้นพบในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERP) และผลักดันให้เกิด traffic มากขึ้น โดยสามารถพิจารณาพื้นฐาน SEO เหล่านี้
-
ปรับภาพให้เหมาะสม
-
เพิ่มลิงก์ภายในที่เกี่ยวข้อง
-
รวมคำหลักในเนื้อหาของเรา
-
เพิ่มคำหลักของเราในเมตาแท็ก
-
เพิ่มประสิทธิภาพ URL ของเรา
อัปเดตเนื้อหาของเราเป็นประจำ
เพื่อให้เนื้อหาของเรามีความเกี่ยวข้อง ถูกต้อง และมีคุณค่า เราต้องอัปเดตเนื้อหาเป็นประจำ เนื่องจากในโลกดิจิทัลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเนื้อหาของเราควรสะท้อนถึงข้อมูลและแนวโน้มล่าสุด โดยเคล็ดลับในการ Refresh เนื้อหามีดังนี้
-
แก้ไข CTA
-
เพิ่มส่วนใหม่
-
ตรวจสอบข้อมูลที่ล้าสมัย
อย่างไรก็ตาม การอัปเดตเนื้อหาของเราเช่นนี้เป็นประจำ สามารถช่วยให้เนื้อหาทำงานได้ดีขึ้น และควรอัปเดตเนื้อหาใหม่ๆ อยู่เป็นประจำ ทุกวันยิ่งดี ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจได้มากมายมหาศาล! อ่านเพิ่มเติม….
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ!
บทความที่เกี่ยวข้อง
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก: semrush