ล่าสุดเอชพี (HP) ออกมาเผยผลสำรวจพบว่า...56% ของคนกลุ่มมิลเลนเนียล (อายุ 27 ถึง 42 ปี) และ 55% ของกลุ่ม Gen X (อายุ 43 ถึง 58 ปี) เชื่ออย่างยิ่งว่า..."การนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจเป็นตัวเลือกที่ฉลาดและสอดรับกับอนาคต"
แต่...ผลลัพธ์ที่ได้จากการศึกษาในหัวข้อ HP Smart Where IT Matters Study2 กลับพบช่องว่างว่า…เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในกลุ่ม Gen Z มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มเบบี้บูมเมอร์คือ…
"ยังมีข้อกังขาและรู้สึกต้านการนำเทคโนโลยีมาใช้ในตลาดเอเชีย" กล่าวคือ กล่าวคือ ในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ นั่นเอง
77% ของธุรกิจขนาดเล็กทั่วภูมิภาคมองว่า เทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดความท้าทายทางธุรกิจ
87% ของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในไทยกล่าวว่า เทคโนโลยีอัจฉริยะจะสามารถช่วยให้ธุรกิจของตนได้เปรียบในการแข่งขัน
86% เชื่อว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ จะช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้แม้มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
69% เป็นผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อดีของเทคโนโลยี จากรุ่นเบบี้บูมเมอร์ (อายุ 59 ปีขึ้นไป) ที่ไม่เห็นประโยชน์หรือผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนในเทคโนโลยี
57% ของ Gen Z ที่เกิดและโตในยุคดิจิทัล (อายุ 19 ถึง 26 ปี) ต่างก็ตั้งคำถามเกี่ยวกับประโยชน์จากการลงทุนในเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน
(64%) กลุ่มเบบี้บูมเมอร์และ (62%) Gen X ข้อสงสัยเกี่ยวกับ ROI (ผลการตอบแทน) ของเทคโนโลยีนั้น เห็นได้ชัดมากขึ้นในกลุ่มเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กนี้ ในขณะที่เจ้าของธุรกิจในกลุ่ม Gen Z จำนวน 1 ใน 2 มีความคิดเห็นที่คล้ายกัน
แผนการศึกษา
จากการศึกษาที่ดำเนินการโดยบริษัทวิจัย Kantar ซึ่งได้รับมอบหมายจากเอชพี ให้สำรวจความเห็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กประมาณ 1,200 ราย เพื่อสำรวจการนำเทคโนโลยีมาใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผลการศึกษา
จากผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า…การที่ธุรกิจขนาดเล็กจะเติบโตได้ในยุคดิจิทัลนั้น คนกลุ่ม Gen X และมิลเลนเนียลจะต้องก้าวนำเพื่อขจัดความกลัวที่ยังคงมีอยู่ ถึงความไม่แน่นอนและความสงสัยในเทคโนโลยี
โดยธุรกิจขนาดย่อยมากกว่า 70% กลัวความซับซ้อนและความไม่ปลอดภัยของเทคโนโลยีอุบัติใหม่ ตอกย้ำให้เห็นถึงความท้าทายที่เจ้าของธุรกิจต้องเผชิญเมื่อพิจารณาการลงทุนใหม่ๆ
แม้ธุรกิจขนาดเล็ก จะยังคงมีข้อสงสัย สำหรับส่วนที่ ROI มีความชัดเจน แต่ไม่ได้เป็นสิ่งฉุดรั้งให้ปฏิเสธที่จะใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
85% ของธุรกิจขนาดเล็กในภูมิภาค ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในการดำเนินธุรกิจ 74% ที่ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) และ 59% ใช้เครื่องพิมพ์สำหรับธุรกิจ
โดย 48% ของเจ้าของธุรกิจวางแผนที่จะใช้เครื่องพิมพ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า และ 21% ที่วางแผนเลือกใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ในประเทศไทย 40% วางแผนที่จะใช้เครื่องพิมพ์ และ 15% คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม ระดับการใช้งานในสถานการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ความสะดวกสบายและความเรียบง่ายสามารถเอาชนะความกลัว ความไม่แน่นอน และความสงสัยในเทคโนโลยีได้
สรุป
เอชพีเชื่อว่า โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กแล้ว เทคโนโลยีจะมีความสำคัญที่สุดเมื่อสามารถมอบความไว้วางใจในการทำงานได้อย่างราบรื่น ส่งมอบประสบการณ์ที่ไม่ซับซ้อนและไร้รอยต่อ
ทั้งยังมีความน่าเชื่อถือ เพื่อยกระดับธุรกิจให้มีประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นมีความปลอดภัย และเชื่อถือได้ในแง่ของการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจและไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน
#บริษัทวินน์ซอฟต์ โซลูชั่น ให้บริการด้านการจัดทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์, รับทำกราฟฟิก, ออกแบบโลโก้, SEO และการตลาดออนไลน์ครบวงจร
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก: ryt9 / thaipr.net / thunhoon / today.line.me / thereporter.asia