เจ้าของธุรกิจหลายท่านยังมีความกลัว และความกังวลในการลงทุนเพื่อทำโฆษณา Google Ads กันไม่น้อย เพราะกลัวว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่คุ้มค่ากับเงินที่ใช้ลงทุนไปหรือเปล่า
วันนี้เรา Wynnsoft จะมาบอกว่า การทำ โฆษณา Google Ads มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด!
คุณไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะต้องเสียเงินมากมาย เป็นหมื่น เป็นแสน ไปกับการลงทุน เพียงแค่ เงินลงทุนเพียงน้อยนิดก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับธุรกิจได้เหมือนกัน!
1. กำหนดงบประมาณเท่าที่จ่ายได้
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นสร้างแคมเปญ อยากให้คุณลองสำรวจตัวเองดูก่อนว่า คุณสามารถตั้งงบประมาณขั้นต่ำต่อวันได้มากเท่าไหร่ สามารถเลือกได้ตามงบที่เรากำหนดไว้เองได้เลย (การใช้งบประมาณ และผลลัพธ์ที่ได้ จะแตกต่างไปตามประเภทของธุรกิจ )
เมื่อคุณตั้งงบประมาณเรียบร้อยแล้ว เรามาลองให้ Google Ads ประเมินกัน งบประมาณที่คุณตั้งเอาไว้ จะได้ผลลัพธ์จากการทำโฆษณาเป็นอย่างไรบ้าง หากยังไม่พอใจคุณอาจเพิ่มงบเข้าไปอีกเพื่อให้ผลลัพธ์ดีขึ้น
วิธีประเมิน ให้คุณเปิด Keyword Planner ขึ้นมาแล้วใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หรือเว็บไซต์ของคุณลงไป
2. ใช้ Keyword ที่เฉพาะเจาะจงและชัดเจน
เดิมทีการทำโฆษณา Google Ads เราจะเลือก Keyword ที่ตรงกับธุรกิจ และเป็นคำที่มีจำนวนการค้นหาสูง หลายๆ คำ เพื่อดึงลูกค้าเข้าเว็บไซต์ให้มากที่สุด นั่นคือแคมเปญแบบปกติทั่วไป แต่สำหรับแคมเปญที่ใช้งบน้อย การเลือก Keyword จะแตกต่างจากแคมเปญโฆษณาทั่วไป เพราะงบประมาณที่จำกัดนี้
การใช้ Keyword มากๆ จะทำให้เราเสียเงินไปอย่างรวดเร็ว! (ยังไม่ทันได้ขาย ค่าโฆษณาก็หมดแล้ว) หากคุณต้องการทำโฆษณางบน้อยๆ ให้มีประสิทธิภาพ คุณต้องเลือกใช้ Keyword ที่คุ้มค่ากับธุรกิจของคุณให้มากที่สุด
3.ใช้การเสนอราคาแบบ ECPC (Enhanced Cost Per Click)
Google Ads นั้นจะมีรูปแบบการเสนอราคาให้เราเลือกด้วย โดยคนส่วนใหญ่ที่ห็น Maximize conversions(เน้นซื้อ เน้นติดต่อเยอะๆ) หรือ maximize clicks (เน้นจำนวนคลิกเยอะๆ) ก็จะรีบเลือก 2 อย่างนี้ทันที
ดูแล้วก็เหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะงบน้อยๆ อย่างเราก็หวังที่จะได้ Conversion กันทั้งนั้น แต่! สิ่งที่เราจะแนะนำก็คือการเสนอราคาแบบ ECPC (Enhanced Cost Per Click) ดียังไง ?
ECPC เป็นวิธีการเสนอราคาที่จะปรับราคาให้สูงขึ้นเมื่อเจอกับคลิกที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดเป็น Conversion เป็นการบริหารเงินของเราให้เหมาะสมที่สุด
และจะปรับลดราคาลงเมื่อเจอคลิกที่มีโอกาสซื้อน้อย หรือเจอกับคู่แข่งที่มีทุนสูง
4.สร้างหน้าเพจเพื่อรองรับโฆษณาโดยเฉพาะ
สิ่งสำคัญที่จะทำให้โฆษณา สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้ก็คือ Landing Page ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สาเหตุที่ให้การทำ โฆษณา Google Ads ไม่ได้ผลนั้น ส่วนใหญ่มาจาก Landing Page (หน้าเพจ) ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ตอบโจทย์ คลิกเข้ามาแล้วไม่เจอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
หน้าเพจที่บอกว่า สินค้าของเรานั้นดียังไง เป็นการแนะนำสินค้าตัวเอง ถึงประโยชน์ และคุณลักษณะ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และทำให้เขาตัดสินใจซื้อสินค้าของเรา
ที่มา : pakorn