สำหรับนวัตกรรมนั้นเป็นพื้นฐานในการเติบโต และปรับปรุงธุรกิจ แต่...การคิดไอเดียใหม่ๆ และเปลี่ยนให้เป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ฉะนั้น ต่อไปนี้คือข้อมูลที่เรานำมาเพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้ทำความเข้าใจ และเพิ่มความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และนำไปปรับใช้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของเรา ให้เติบโตไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่งนั่นเองละครับ!!
1. เริ่มจากรู้จักตลาดของตนเอง
แน่นอนว่าการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ที่เกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง, การแข่งขันที่กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก, แนวโน้ม และโอกาสต่างๆ ที่มีมาและไป
ฉะนั้นการติดตามทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่...การวิจัยและการวิเคราะห์ตลาดนั้น มีความสำคัญต่อความสำเร็จด้านนวัตกรรม
อย่างไรก็ตาม การรับฟังผู้ชม เพิ่มขนาดการแข่งขัน และมองหาช่องว่างในตลาดอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าที่สามารถช่วยให้เรากำหนดรูปแบบ และปรับแต่งผลิตภัณฑ์ หรือบริการของเราให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเองละครับ
2. ใช้ความคิดริเริ่ม
ไม่อาจปฏิเสธไปได้เลยว่า ในธุรกิจขนาดเล็กนวัตกรรมมักเกิดขึ้น เนื่องจากความจำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเงินมีน้อย ถึงแม้ว่าการโอนทรัพยากรไปยังกิจกรรมการวิจัยและพัฒนา (R&D) แบบเต็มเวลาอาจเป็นไปไม่ได้เสมอไป
แต่...การลงทุนใน R&D และเทคโนโลยี จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเราในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่อาจมีส่วนช่วยสนับสนุนประเภทต่างๆ เพื่อช่วยให้เราเติบโตอีกด้วย
3. เริ่มจากสิ่งเล็กๆ (จะได้ไม่เจ็บหนัก หากทุนจำกัด)
สำหรับแนวคิดที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และสิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนแปลงเกมเป็นสิ่งที่ดี แต่...หากเรายังใหม่ต่อนวัตกรรม แน่นอนว่าเราจะมีความลังเลที่จะกระโดดเข้าสู่ในส่วนที่ลึกที่สุด ฉะนั้นหากเป็นไปได้ให้มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งมีศักยภาพในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ หรือกระบวนการทางธุรกิจที่มีอยู่ของเราแทน โดยเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบธุรกิจและข้อเสนอปัจจุบันของเรา จากนั้นให้ระบุส่วนที่การปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถสร้างความแตกต่างได้มากที่สุดนั่นเองละครับ (บางทีไอเดียเล็กๆ อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มหาศาลได้นะ ฉะนั้นอย่าหยุดตั้งคำถาม)
4. คิดแตกต่างออกไป (คิดนอกกรอบ)
หากทุกคนในอุตสาหกรรมของเราทำสิ่งเดียวในลักษณะเดียวกัน ให้ลองคิดขัดแย้งกับเมล็ดพันธุ์พืช โดยเราสามารถเสนอบริการหรือรูปแบบธุรกิจที่ไม่ใช่บรรทัดฐานได้หรือไม่
ฉะนั้นให้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้า ซัพพลายเออร์ และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม จากนั้นค้นหาแนวทางที่จะทำให้เราแตกต่างและนำเสนอคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับเรา
5. สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
หากเราติดเหล้า หน้าจอ หรือใช้เวลาไปกับสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์มากเกินไป จะส่งผลให้ธุรกิจไม่เจริญรุ่งเรืองในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขั้นสูงอย่างแน่นอน ฉะนั้นไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องมีความอดทนและสละเวลาหรือพื้นที่ เพื่อให้ตัวเองได้มีเวลาใช้ความคิดได้อย่างสร้างสรรค์ และครุ่นคิดถึงไอเดียใหม่ๆ
จากนั้นกำหนดเวลาให้ห่างจากงานประจำวัน ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และการสนทนาในธุรกิจของเรา เปิดใจรับความเสี่ยงที่วัดได้ และแบ่งปันความสำเร็จและความล้มเหลวอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อเรียนรู้และพัฒนา
6. อย่าท้อแท้ (ซึ่งเป็นพื้นฐานของคนที่สำเร็จมี)
ความจริงง่ายๆ ก็คือไม่ใช่ทุกความคิดจะหลุดลอยไป โดยการวิจัยแนะนำว่าเราต้องมีอย่างน้อย 50 แนวคิดเพื่อให้ได้โครงการที่มีศักยภาพ 10 โครงการ ซึ่งมีเพียง 2 โครงการเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ
ดังนั้นอย่าเพิ่งท้อแท้ เมื่อเรามีแนวคิดพร้อมแล้วให้พิจารณาความเป็นไปได้ ต้นทุน ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และผลตอบแทนแต่ละข้อ ฉะนั้นหากความพยายามอย่างเต็มที่ของเราไม่ได้ผลดีเท่าที่เราคาดหวังไว้ ให้ถือว่าเป็นโอกาสดี ที่เราจะได้เรียนรู้และปรับปรุงการเดินทางไปสู่ความสำเร็จอันหอมหวานที่กำลังรอเราไปสัมผัสอยู่นั่นเอง
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก: nibusinessinfo.co.uk