ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจออนไลน์ประเภทไหน มีขนาดองค์กรใหญ่หรือเล็ก ล้วนแล้วแต่มีการแข่งขันในโลกดิจิทัล เพื่อให้แบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งการใช้เครื่องมือเพื่อวัดผลทางการตลาดหรือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้ธุรกิจออนไลน์ สามารถสร้างโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลมีเดีย และเติบโตแบบไม่มีที่สิ้นสุด
ในปัจจุบันนี้มีพ่อแม่ และแม่ค้าเพิ่มขึ้นมาเยอะมากๆ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นมามากเช่นกัน แม่ค้า 1 คน อาจจะขายสินค้าหลากหลายตัว แต่.. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสินค้าตัวไหนที่ลูกค้าถูกใจ และกดซื้อ ทำรายได้ให้เรา? แน่นอนว่าเราอาจจะไปดูที่ยอดขายของสินค้าตัวนั้นว่าทำรายได้ให้เราเยอะหรือไม่ สั่งซื้อไปกี่ชิ้น เมื่อเรารู้ตัวสินค้าที่ทำยอดได้เยอะแล้ว เราอาจจะไปเพิ่มทุนค่าโฆษณาตัวนั้นมากขึ้น แต่การวิเคราะห์สินค้าแบบนี้ เป็นเพียงแค่การดูเผินๆ เท่านั้น ไม่สามารถวิคราะห์ถึงตัวสินค้าได้จริงๆ ฉะนั้นการใช้ Google Analytics ช่วยวิเคราะห์ปัญหาที่แท้จริงของสินค้า เพราะสามารถช่วยวิเคราะห์ทิศทางการทำการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น จะช่วยให้เ
ราแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า
Google Analytics จะเป็นมุมมองจากฝั่งลูกค้า เราจะสามารถรู้ขั้นตอนในการซื้อสินค้าของลูกค้าได้ จะเริ่มตั้งแต่ Product List View, Product Detail, Add to Cart, Remove from Cart, Checkout และ Purchase
วิเคราะห์สินค้าด้วย Product Performance Report - Google Analytics
เข้าไปที่ Google Analytics > Conversion > Ecommerce > Product Performance
เราก็จะเห็นรายการสินค้า รายได้จากแต่ละสินค้า ยอดสั่งซื้อ ฯลฯ ซึ่งอย่างที่เกริ่นไปว่าดูรายได้ และยอดจำนวนอย่างเดียวไม่ได้ ฉะนั้นให้กดไปที่ Shopping Behavior ข้างๆ Summary เราก็จะได้เจอหน้าตามรูปด้านล่าง
หลังจากนั้นกด Export แล้วดึงข้อมูลออกมาวิเคราะห์ใน Excel File กัน เปิดไฟล์ออกมา ไปที่ Dataset 1 ก็จะมีรายการสินค้าที่เราขายได้ในช่วงเวลาที่เราตั้งไว้ใน Google Analytics และ Metrics ต่างๆ ที่อธิบายไปตั้งแต่ Product List View, Product Detail, Add to Cart, Remove from Cart, Checkout และ Unique Purchase นั่นเองค่ะ