สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำเว็บไซต์ขึ้นมาเว็บนึง คือ โดเมน ที่เปรียบเสมือนชื่อของเรานั่้นเอง การจดโดเมนไม่ใช่การ “ซื้อ” โดเมนอย่างถาวร แต่เป็นการ “เช่า” ใช้ชื่อโดเมนเป็นรายปี (พอจ่ายเงินค่าโดเมนแล้ว คุณจะได้สิทธิ์ใช้ชื่อนั้นๆ หนึ่งปี) ดังนั้นเมื่อจดชื่อโดเมนไปแล้ว คุณต้องอย่าลืมจ่ายเงินต่ออายุก่อนที่โดเมนของคุณจะหมดอายุ
1.ชื่อโดเมนน่าจดจำ
การตั้งชื่อโดเมนต้องเป็นชื่อที่น่าจดจำบ่งบอกถึงธุรกิจหรือบริษัท เพราะลูกค้าโดยส่วนใหญ่จะไม่จดจำเว็บไซต์ที่มีชื่อยากหรือยาวมากเกินไป เพราะมันอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกสับสนได้ ซึ่งชื่อ 1 ชื่อสามารถจดโดเมนได้ 1 ครั้งเท่านั้น ถ้าหากว่าบริษัทต้องการเปลี่ยนชื่อต้องเสียเงินเพื่อจดใหม่
2. ความยาวของชื่ออาจสำคัญ
ทั้งนี้ไม่ใช่ความยาวของชื่อจะมีข้อเสียเสมอไป เพราะความยาวของชื่ออาจเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าสามารถจดจำธุรกิจได้ โดยความยาวของชื่อโดเมนสามารถมีความยาวได้ไม่เกิน 63 ตัวอักษร ซึ่งการตั้งชื่ออาจใช้คำหลักของธุรกิจ หรือชื่อหลักของบริษัทได้ การใช้คำย่อก็อาจส่งผลให้ลูกค้าสับสนได้เช่นกัน
3.เลือกผู้จดโดเมน
ให้เลือกผู้จดโดเมนที่ได้รับการรับรองและน่าเชื่อถือ เนื่องจากผู้ให้บริการจดโดเมนจะสามารถไปแก้ไขโดเมนของคุณได้ และเป็นคนต่ออายุโดเมนให้กับคุณด้วย ดังนั้นควรรักษา Username และ Password ไว้เป็นความลับ
4.โปรดใช้ความระมัดระวังในการเลือกใช้ส่วนท้ายของโดเมน
ส่วนท้ายของโดเมนหรือโดเมนระดับบนสุด (TLD) ส่วนใหญ่จะใช้ .com, .net และ .org ซึ่งส่วนท้ายนี้ต้องเลือกให้เหมาะสมกับธุรกิจ เช่นสำหรับองค์กร หรือบริษัทธุรกิจ ควรเริ่มด้วย .com หรือถ้าเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรก็ใช้ .org เป็นต้น
5.ต้องการพื้นที่ Web Hosting มาแค่ไหน
ธุรกิจสามารถซื้อพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลและอีเมลต่างๆได้ เมื่อธุรกิจต้องการพื้นที่เพิ่มสามารถซื้อพื้นที่ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนที่อยู่ แต่ถ้าหากธุรกิจต้องการเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์จำนวนมากในแต่ละวัน ธุรกิจนั้นอาจต้องใช้พื้นที่มากขึ้น
ที่มา : thaihostclub