06 กันยายน 2559
เหตุผล 4 ข้อที่ไม่ควรใช้ FACEBOOK แทน WEBSITE

เหตุผล 4 ข้อที่ไม่ควรใช้ Facebook แทน Website

        ในปัจจุบันถือได้ว่า Facebook เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเล่าผู้ใช้ออนไลน์มากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่า Facebook ได้กลายเป็นสื่อ Social Media ที่ผู้คนทั่วโลกน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เพราะนอกจากจะใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มเพื่อน หรือแวดวงสังคมออนไลน์ที่เป็นเครือค่ายครอบคลุมทั้งโลก Facebook ยังมีการพัฒนาเพื่อให้ผู้ค้า หรือ นักธุรกิจ ใช้เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์และโปรโมทสินค้าหรือบริการของตนเอง โดย Facebook ได้เพิ่มฟังก์ชั่นของการสร้างหน้าเพจ เพื่อใช้เป็นช่องทางในการทำธุรกิจและติดต่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เหมาะสำหรับพ่อค้า แม่ค้า ที่อยากจะเริ่มต้นธุรกิจอย่างง่าย ๆ ด้วยสื่อออนไลน์ ซึ่งช่องทางนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้โดยง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไม่ควรใช้ Facebook เป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจซะทีเดียว และนี่คือ 4 เหตุผลที่ไม่ควรใช้ Facebook แทน Website 

1. Facebook มีการเปลี่ยนแปลงและอัพเดทตลอดเวลา

        หลาย ๆ คนที่ใช้งาน Facebook เป็นประจำ ก็คงจะพอสังเกตุได้ว่า Facebook จะมีการอัพเดทเปลี่ยนแปลงหน้าตาของเว็บแอพพลิเคชั่น , ฟีเจอร์ต่าง ๆ , คือกฎระเบียบใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งสิ่งเล่านี้เราไม่สามารถทราบได้ว่า Facebook จะเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ และถึงตอนนั้น Fanpage โปรโมทธุรกิจของคุณก็อาจจะได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบและข้อเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลข้อแรกที่คุณไม่ควรใช้ Facebook เป็นช่องทางเพียงอย่างเดียวในการโปรโมทธุรกิจของคุณ ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากคุณลงทุนกับ Facebook ในการโปรโมทหน้า Fanpage จนมียอดไลค์กว่า 50,000 Like แต่มาวันหนึ่งกลับมีกฎระเบียบบางอย่างทำให้ Fanpage ของคุณหายไป ในขณะที่คุณไม่มีเว็บไซต์หลักเลย มีเพียง Fanpage บน Facebook เท่านั้น แปลว่าช่องทางทำธุรกิจของคุณก็จะอันตทานหายไปแทบจะทั้งหมดเลยทีเดียว 

2. Facebook มีข้อจำกัดในการเข้าใช้งานหรือการแสดงผลในหลาย ๆ กรณี

- ผู้ใช้ที่ไม่มี Account Facebook จะไม่สามารถเข้าชมรายละเอียด กด like , share หรือ comment ใน Fanpage 
- มือถือหรือสมาร์ทโฟนในบางรุ่น อาจมีปัญหาในการใช้งาน Application Facebook
- การแสดงผลของ Facebook จะแตกต่างไปตาม Device ที่ใช้งาน เช่น คอมพิวเตอร์ , แท็บเล็ต , สมาร์ทโฟน ซึ่งในข้อดีก็เป็นการอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้งาน แต่ข้อเสียคือบางฟังก์ชั่นที่ใช้งานในอุปกรณ์หนึ่งอาจจะใช้ไม่ได้ในอีกอุปกรณ์หนึ่ง  

3. Facebook ทำการจัดหน้าตาหรือกำหนดรูปแบบรายละเอียดการแสดงผลข้อมูลได้ยาก

        กรณีของการสร้างหน้าด้วย Facebook นั้นในปัจจุบันก็มีบริการ App เพิ่มเติมที่สามารถทำได้ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของอิสระในการจัดหน้าตาต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องอยู่ในรูปแบบที่ถูกกำหนดมาแล้ว ดังนั้นการจัดเรียงข้อมูลให้เป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหาของลูกค้าจะทำได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้งานสินค้าแบบรวดเร็ว คงไม่สะดวกที่จะมาค้นหาด้วยวิธีการที่ยุ่งยาก และลูกค้าที่ซื้อสินค้าส่วนใหญ่จะนิยมใช้ Website เลือกซื้อสินค้ามากกว่า เพราะมีอิสระในการค้นหาสินค้าที่ต้องการ และสะดวกสบายในการเลือกซื้อพร้อมกับมีข้อมูลรายละเอียดที่ครบถ้วน 

4. Website มีความน่าเชื่อถือกว่า Facebook มาก  

        ในกรณีการซื้อสินค้าผ่าน Fanpage Facebook นั้น ลุกค้าส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับจำนวนยอด Like ของเพจ เพราะเป็นเหมือนสิ่งที่แสดงความน่าเชื่อถือของเพจนั้น ๆ ดังนั้นเพจที่มีอัตรากด Like น้อย ก็จะถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือต่ำไปด้วย แม้ว่าพ่อค้าแม่ค้าของเพจนั้น ๆ ตั้งใจทำมาค้าขายอย่างสุจริตก็ตาม จึงเป็นอีกหนึ่งอุปสรรค์ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่จะประสบปัญหากันเป็นประจำ และการใช้งาน Website ที่ออกแบบได้สวยงาม น่าเชื่อถือ มีการลงรายละเอียดสินค้าและช่องทางติดต่อที่ครบถ้วน ก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจ และเชื่อถือได้ง่ายกว่า Facebook อยู่มาก 

จากทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของการใช้ Facebook เป็นช่องทางในการทำธุรกิจก็มีประโยชน์อยู่มาก แต่ไม่ควรใช้เป็นช่องทางเดียวของธุรกิจ ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจที่ดีควรเลือกใช้ Website ควบคู่ไปกับการโปรโมทด้วย Facebook ก็จะทำให้ธุรกิจของคุณน่าเชื่อถือ และประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นครับ 


        บริการสร้างสรรค์ Website จากทีมงาน Web Design บริษัท วินน์ซอฟต์ โซลูชั่น จำกัด เรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญในการออกแบบเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับธุรกิจของคุณ เลือกใช้บริการออกแบบและสร้างสรรค์เว็บไซต์จากเรา คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับเว็บไซต์ที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้มากที่สุด 


ขอบคุณข้อมูลจาก : ads-now.com